1 พฤศจิกายน 2554

ไม่ได้เข้ามานานเท่าไหร่แล้วนะ
ไม่ได้ดูเลยด้วยซ้ำว่ามีใครแวะเวียนเข้ามาบ้างไหม
น่าสงสารนะ บล๊อกนี่กลายเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ของคนจิตใจอ่อนไหว
ทั้งๆที่มันสามารถให้คุณค่าได้มากกว่านั้น

แปลกดีเหมือนกัน
ทำไมในวันที่ฉันรู้สึกว่าเรื่องราวมันยุ่งเหยิง และฉันก็คิดว่ามันจะสามารถผ่านไปได้
กลับมามีเรื่องที่ยุ่งเหยิงยิ่งกว่า จนเกิดคำถามว่าฉันยังสามารถผ่านมันไปได้ไหม

เวลาที่เราพูดถึงความสุข เวลาที่เราบอกว่า เรามีความสุขที่สุด
นั่นเพราะเรารู้อยู่แล้วใช่ไหมว่า มันจะจบแค่ความสุขตรงนั้น
ฉันยอมรับ ว่าฉันได้ถลำลึกมากเกินไป
ฉันมัวเมากับความสุขนั้นมากจนเกินขอบเขตที่ตัวเองเคยตั้งไว้
สติที่เคยเตือนฉันอยู่เสมอมันหายไปตอนไหน
ไม่สิ ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายผลักไสมันออกไปเอง

แล้วทันทีที่มีความทุกข์ มันก็เลยถาโถมเข้ามาขนาดนี้
มันก็คงเหมือนมวลน้ำที่ท่วมประเทศเราอยู่มั้ง
มันคงมหาศาลมาก จนคันกั้นน้ำตาของคนๆนึงแตกจนได้
บ้าพอแล้วรึยังเนี้ย

ตอนนี้ฉันพยายามนั่งนึกถึงวันเก่าๆ
วันที่แสนเศร้า ว่าฉันผ่านมันมาได้อย่างไร
ฉันต้องยึดอะไร ฉันต้องคิดยังไง หรือทำยังไงไม่ให้คิด
ฉันเคยผ่านมันมาได้ครั้งนึง
ฉันคงสามารถผ่านมันไปได้อีกทีล่ะน่า

นั่งคิดกับตัวเอง แบบนี้มันเหมือนพระเจ้ากลั่นแกล้ง
ไม่สิ พระองค์คงกำลังทดสอบอะไรบางอย่างอยู่
หากเรามีความเชื่อมากพอ ศรัทธามากพอ เราก็จะสามารถผ่านมันไปได้
ฉันเชื่อในความรักของตัวเองมากน้อยแค่ไหน
ตอนนี้ คงถึงเวลาที่ฉันจะได้พิสูจน์มันแล้วสินะ

Rabi_Angel่mon

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ก้าวแรก...สวนผึ้ง ไปเช้าเย็นกลับจ้า


สวัสดีค๊าบบบ...แนะนำตัวเองกันก่อนเลย กระผม นายหมูกระต่าย ชื่อที่สุดแสนจำง่าย 
ถ้าจำไม่ได้ก็ให้สังเกตที่จมูกกับหูอันเป็นเครื่องหมายการค้าของกระผมนะค๊าบ...
หลังจากที่นั่งอยู่เบาะหลัง ล้มลุกคลุกคลานลงไปกองที่พื้นจนหน้าเป็นรูปตารางๆของแผ่นยางปูพื้นรถซะหลายที
วันนี้ กระผมขอทำหน้าที่มัคคุเทศก์รับเชิญในการออกเดินทางครั้งแรกของเจ้านายของผมนะค๊าบ...

ออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ (8 โมง 555 เนื่องจากเมื่อคืนดริ๊งกันดึกไปหน่อย)
เดินทางกันแบบมึนงง เจ้านายกระผมไม่รู้เส้นทางถนน -*- (ซวยละ)
ประโยคประจำเช้านี้ ก็คือ ไหนวะ ป้ายเขียว (พยายามมองหาป้ายเขียวที่มีคำว่า ราชบุรี)
GPS ก็ไม่มี ไม่เป็นไร คนสมัยเมื่อ 50 ปีที่แล้วเค้าก็ไม่ใช้ GPS เค้ายังไปกันได้เลย
บรืน...บรืน....บรืน...

Check point แรกที่เราจะไปกันนั่นก็คือ.... ถ้ำจอมพล
เราจะข้ามเรื่องความเปิ่นในการขับรถของเจ้านายกระผมกันไปนะครับ (พาใจหวิวซะหลายที)
อ่า...เห็นแล้ว ป้ายถ้ำจอมพล ณ เวลา 9.00 น.
 เจอแต่ลิง ลิง ลิง แล้วก็ลิง ร้างไร้ผู้คน ไม่มีรถจอดซักกะคัน นึกว่ามาผิดที่ซะแล้ว

ระหว่างเดินไปที่ถ้ำ สังเกตเห็นว่ารถเข็น ซุ้มโค้กขายของกินทุกร้าน (มีอยู่ 3 ร้าน ณ เวลานี้) รวมทั้งที่ขายตั๋วจะมีตุ๊กตาจระเข้อยู่ ถามไปถามมาก็เลยได้ความว่า เอาไว้ไล่ลิง ลิงมันกลัวจระเข้ 555 ก็เลยต้องขอถ่ายรูปกับขาโจ๋ของที่นี่ซะหน่อยแล้ว

ถ้ำตอนเช้าๆอากาศเย็นมากครับขอบอก ภายในสวยพอสมควร แต่ค้างคาวเยอะมาก
ไม่ได้กลัวมันกินเลือด แต่กลัวมันอึ๊ใส่หัวอ่ะสิค๊าบ...
เดินมาเรื่อยๆจนถึงชั้นในสุด สวยมากครับ เพราะมีอุโมงค์อยู่ที่ผนังถ้ำ ทำให้แสงแดดส่องลงมาได้


ขากลับไปจ๊ะเอ๋กับ ลิงแม่ลูกคู่นึง น่ารักดีครับ เลยขอชักภาพซะหน่อย ดูแล้วอบอุ่นใจ

จากนั้นก็แวะกินข้าวเที่ยงกันก่อนครับ รอเวลาไปเที่ยวสถานที่ต่อไป
Check point จุดต่อไป คือ สวนผึ้งรีสอร์ท หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า บ้านฟรินสโตน
เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปได้เฉพาะตอน 12.00-14.00 น. เท่านั้นนะครับ
เพราะฉะนั้น พอมาถึง ก็เจอฝูงชนมากมาย

 ที่พักก็มีเท่าที่เห็นเนี้ยแหละครับ (กี่หลังเองเนี้ย) เป็นสถานที่สำหรับถ่ายรูปจริงๆ ถ่ายแล้วก็ไป เหอๆ
 บ้านพักและของตกแต่งสถานที่ทั้งหมดจะออกแนวยุคหินครับ
แต่อยู่ๆก็มี ก้านกล้วยกับชบาแก้ว โผล่มากลางน้ำ

บ้านกัปตันเคฟแมนครับ สนนราคาค่านอน ที่คืนละ 10,000 บาท!!!

 มาแวะ New Land ครับ เหมือนจะเพิ่งสร้างนะครับ
มีรถไฟให้นั่ง (ตากแดด) เล่นด้วย แต่ร้อนมากครับ นั่งไม่ไหว
ไม่งั้นขึ้นจะรถไฟมาอีกที กระผมคงกลายเป็นหมูหันแน่นอน

 Check point จุดที่ 3 Scenery Resort

หญ้าไม่เขียว แกะไม่ขาว แต่สาวๆเพียบเลย ฮี่ๆๆๆๆ
กลัวมากครับ ในมือใครมีหญ้า แกะมันแห่กันมาหา เหมือนอดอยากมาจากไหน
ทั้งๆที่บนพื้นมีหญ้ากองอยู่เพียบเลย
 น้องแกะมอมแมมมากๆ เหอๆ

อันนี้มาแอบแวะถ่ายรูปที่ Swiss valley ครับ

Check point ที่ถัดไป ก็คือ โป่งยุบ
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ คล้ายๆแพะเมืองผีอ่ะครับ ในประเทศไทย มีสถานที่แบนี้ แค่ 3 ที่เองนะครับ
แต่ที่นี่เป็นของเอกชนครับก็เลยไม่ค่อยได้รับการดูแลเท่าไหร่

ขับเวียนไปเวียนมาหลายทีแล้ว ได้เข้ามาเดินเล่นซะทีใน check point จุดสุดท้าย บ้านหอมเทียนค๊าบบ...
สีสันสวยดีครับ ถ่ายรูปกานใหญ่เลย

 เข้าไปในร้าน หอมเทียนจริงๆครับผม แต่ก็เสียวไฟไหม้ขนอยู่เล็กน้อย -*-
 
ก่อนกลับกรุงเทพ แวะร้านที่เห็นแวบๆว่ามีคนแนะนำในเนต ชื่อร้าน ปั๋งหงาย

อาหารก็อย่างที่เห็นนะครับ พอเรียกเก็บตัง ดูราคาของกิน
ไข่ตุ๋น 80 ไข่เจียว 70!!!! หงายไหมละค๊าบบบบ....
บิลมา ปั๋ง คนจ่าย หงาย  555 ล้อเล่นนะครับ นานๆมากินทีก็ไม่ว่ากันเน๊อะ

กลับถึงบ้านเวลา 21.00 น. โดยสวัสดิภาพ สนุกดีครับ ทริปหน้ากระผมจะพาไปเที่ยวที่ไหนนั้น
ก็คงต้องติดตามตอนต่อไปนะค๊าบ....บะบายยยย

2 ความคิดเห็น:

  1. น่ารักมากๆเลย
    เห็นครั้งแรกก็ชอบเลยนะเนี่ย
    เข้าใจถ่าย เข้าใจจัดวางมากๆ

    ไอเดียดีครับนำเสนอได้น่าสนใจ
    ชอบครับๆ
    เข้ามาชื่นชมและเอ่ยชมครับ ^ ^

    ตอบลบ
  2. โอ้ คำชมเพียบเลย ดีใจมากๆเลย แฮะๆ
    คิดไว้ตั้งนานแล้วค่ะ สนุกดีเหมือนกัน
    ขอบคุณมากค่ะ

    ความคิดเป็นเรื่องอันตรายหากเราปล่อยให้มันทำงานด้วยตัวเอง
    ความคิด บางทีถ้าเราไม่นำพามันซะก่อน
    มันก็จะนำพาเราไปในที่ที่มันต้องการค่ะ

    อย่าปล่อยให้มันพาเราไปในอดีต หรือนำเราสู่อนาคต
    อยู่กับปัจจุบันค่ะ มีความสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
    ลืมให้ได้ว่า อดีตเราเป็นใคร และอนาคตเราจะเป็นอย่างไร

    เมื่อตอนไปสวนผึ้ง เรียกได้ว่า อยู่กับปัจจุบันจริงๆค่ะ ใจเบาเลย

    ตอบลบ